ข้อบังคับคณะลูกเสือแห่งชาติ ว่าด้วยการเดินทางไกลแรมคืนลูกเสือ
การเดินทางไกลแรมคืน ตามข้อบังคับคณะลูกเสือแห่งชาติฯ ได้ระบุเกี่ยวกับเรื่องดารเดินทางไกลแรมคืนไว้ว่า
ข้อ ๒๗๓ การเดินทางไกลแรมคืน ให้ผู้กำกับกลุ่มหรือผู้กำกับลูกเสือนำลูกเสือไปฝึกเดินทางไกลและแรมคืนในปีหนึ่งไม่น้อยกว่า ๑ ครั้ง ครั้งหนึ่งให้พักแรมอย่างน้อย ๑ คืน
การเดินทางไกลและแรมคืน มีวัตถุประสงค์ฝึกให้ลูกเสือมีความอดทนอยู่ในระเบียบวินัยรู้จักช่วยตัวเอง รู้จักอยู่และทำงานร่วมกับผู้อื่นตลอดจนเรียนวิชาลูกเสือเพิ่มเติม ผู้บังคับบัญชาลูกเสือพึงวางแผนการนำลูกเสือไปเดินทางไกลและแรมคืนไว้ให้พร้อมและเนิ่น ๆ
ข้อ ๒๗๔ การเดินทางไกลของลูกเสือต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองของลูกเสือเสียก่อน ถ้าจะแรมคืนด้วยนอกจากได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองแล้วจะต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยราชการที่สังกัดและจากเลขาธิการคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ผู้อำนวยการลูกเสือจังหวัดหรือผู้อำนวยการลูกเสืออำเภอแล้วแต่กรณี
การขออนุญาตจะต้องแจ้งความประสงค์ บอกรายละเอียด เช่น การตระเตรียมต่างๆ ตลอดจนการฝึก เป็นต้น
ข้อ ๒๗๕ การเดินทางไกลและแรมคืนผู้บังคับบัญชาลูกเสือจะต้องระมัดระวังดูแลลูกเสืออย่างใกล้ชิดเพื่อมิให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ทั้งนี้ตั้งแต่ออกเดินทางจนกระทั่งกลับถึงที่ตั้งกลุ่มหรือกองลูกเสือ
ข้อ ๒๗๖ เมื่อเสร็จการเดินทางไกลและแรมคืนแล้ว ได้ปฏิบัติไปอย่างไร ได้ผลเป็นอย่างไรให้ผู้กำกับกลุ่มหรือผู้กำกับกองลูกเสือทำรายงานที่ได้กระทำไปโดยละเอียดเสนนอต้อผู้อนุญาต
ข้อ ๒๗๗ การแรมคืนลูกเสือสำรองนอกจากปฏิบัติตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ให้ปฏิบัติในเรื่องต่อไปนี้ด้วย
๑) มีผู้บังคับบัญชาอย่างน้อย ๒ คนในจำนวนนี้ต้องเป็นผู้กำกับลูกเสือสำรองที่มีประสบการณ์การอยู่ค่ายพักแรมของลูกเสือมาแล้วเป็นอย่างดีอีกด้วย
๒) ต้องมีผู้บังคับบัญชาหรือผู้ใหญ่อย่างน้อย ๑ คน ประจำลูกเสือสำรองทุก ๖ คน
๓) ในที่แรมคืนต้องมีน้ำประปาหรือน้ำสะอาดสำหรับบริโภคและมีเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ในการทำครัว ตลอดจนเครื่องสุขภัณฑ์ที่ถูกสุขลักษณะ
๔) ศาลาที่พักของลูกเสือต้องสะอาด ถ้าไม่มีศาลาที่พักจะใช้เต็นท์ก็ได้และต้องมีจำนวนเพียงพอ
๕) ผู้อนุญาตให้นำลูกเสือไปแรมคืนจะต้องไม่อนุญาตจนกว่าจะเป็นที่พอใจในเรื่องผู้ควบคุมลูกเสือ สถานที่พักและการตระเตรียมต่างๆ
ข้อ ๒๗๘ ในการเดินทางไกลแรมคืน ผู้บังคับบัญชาลูกเสือไม่ควรอนุญาตให้ลูกเสือเล่นน้ำในแม่น้ำ ลำคลองหรือสระ เว้นแต่จะได้มีการควบคุมอย่างใกล้ชิด หากผู้บังคับบัญชาลูกเสือจะอนุญาตให้ลูกเสือลงเล่นน้ำ ต้องปฏิบัติ ดังนี้
๑) พิจารณาในเรื่องอายุ สุขภาพตลอดจนความสามารถในการว่ายน้ำของลูกเสือแต่ละตน
๒) ตรวจสอบความตื้นลึกของน้ำ
๓) พิจารณาสภาพลมฟ้าอากาศในขณะลงเล่นน้ำ
๔) แบ่งลูกเสือออกเป็นหมู่ย่อยๆ ตามความสามารถสำหรับลงเล่นน้ำ โดยให้แต่ละหมู่ มีผู้ควบคุมอย่างใกล้ชิด
๕) ให้มีเจ้าหน้าที่สำหรับดูแล ซึ่งควรเป็นผู้ที่ได้รับเครื่องหมายวิชาช่วยผู้ประสบภัยมาแล้วและควรมีอุปกรณ์สำหรับช่วยคนจมน้ำไว้ให้พรักพร้อมสามารถที่จะช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
๖) ในระหว่างการเล่นน้ำ อาจให้ลูกเสือจับเป็นคู่ๆ โดยให้ดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในการสอบจำนวนลูกเสือว่าครบหรือไม่ให้เป่านกหวีด ลูกเสือเมื่อได้ยินสัญญาณจะต้องอยู่เป็นคู่ๆ อาจให้ชูมือขึ้นแล้วตรวจสอบจำนวน
๗) เมื่อได้ยินสัญญาณนกหวีดเลิกตามที่กำหนดลูกเสือต้องขึ้นจากน้ำทันที
ข้อ ๒๗๙ การเดินทางไกลไปต่างประเทศ มีระเบียบปฏิบัติดังนี้
๑) ลูกเสือที่ประสงค์เดินทางไกลไปต่างประเทศจะต้องยื่นเรื่องราวตามลำดับขั้นจนถึงสำนักงานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติพร้อมทั้งชี้แจงความประสงค์และรายละเอียดต่างๆ
๒) การเชิญลูกเสือต่างประเทศมาเยี่ยมหรือแรมคืนในประเทศไทยจะต้องได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการลูกเสือจังหวัดหรือเลขาธิการคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ